สื่อมะกันชี้ EU เริ่มเคือง! มองสหรัฐฯ ‘ได้ประโยชน์เต็มๆ’ จากสงครามยูเครน

เว็บไซต์ Politico ซึ่งเป็นสื่อการเมืองชื่อดังของสหรัฐฯ อ้างแหล่งข่าวซึ่งระบุว่า เวลานี้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป (อียู)

หลายคนเริ่ม “ไม่พอใจ” รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน เนื่องจากมองว่าวอชิงตันเป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากสงครามในยูเครน ขณะที่ยุโรปกลับต้องเผชิญพิษเศรษฐกิจหนักหน่วง ทั้งภาวะขาดแคลนก๊าซ และราคาข้าวของที่พุ่งสูงขึ้น

เจ้าหน้าที่ระดับสูงอียูคนหนึ่งบอกกับ Politico ว่า สหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนมากที่สุด “เพราะทำให้พวกเขาส่งออกก๊าซได้มากขึ้นและในราคาที่สูงขึ้น แถมยังขายอาวุธได้มากขึ้นด้วย”

สัญญาณรอยร้าวระหว่าง 2 ฟากแอตแลนติกมีที่มาจากปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการคว่ำบาตรที่ชาติตะวันตกใช้กับมอสโก ซึ่งทำให้การลำเลียงก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเข้าสู่ยุโรปต้องหยุดชะงัก และเวลานี้อียูต้องหันไปพึ่งพิงก๊าซนำเข้าจากอเมริกาซึ่งราคาสูงกว่าที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ถึง 4 เท่าตัว

ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสเคยออกมาวิจารณ์แนวปฏิบัติเช่นนี้ว่า “ไม่เป็นมิตร” แต่กระนั้นตามที แหล่งข่าวของ Politico ให้ข้อมูลว่า เมื่อถูกผู้นำอียูตั้งคำถามเรื่องนี้ระหว่างการประชุมซัมมิต G20 ผู้นำสหรัฐฯ กลับ “ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้”

อีกหนึ่งปมปัญหาที่ทำให้อียูไม่พอใจก็คือกฎหมาย US Inflation Reduction Act ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นการเติบโตที่สหรัฐฯ จะให้เงินอุดหนุนและสิทธิยกเว้นภาษีแก่ภาคธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่บรัสเซลส์เกรงว่ามาตรการนี้อาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของอียู เนื่องจากจะทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกันมีความได้เปรียบค่ายยานยนต์ของยุโรปในตลาดสหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่อียูยอมรับกับ Politico ว่า “เรากำลังเดินมาถึงทางแยกที่สำคัญ” เพราะข้อขัดแย้งเหล่านี้อาจกัดเซาะความพยายามของโลกตะวันตกในการที่จะสนับสนุนยูเครน รวมไปถึงความเป็นพันธมิตรระหว่าง 2 ฟากฝั่งแอตแลนติกด้วย

“อเมริกาจำเป็นต้องตระหนักว่า ความคิดเห็นของสาธารณชนในหลายๆ ประเทศอียูกำลังเปลี่ยนไป” เขาเตือน

หลายประเทศในยุโรปยังรู้สึกขุ่นเคืองที่การสนับสนุนช่วยเหลือยูเครนทำให้มีเม็ดเงินมหาศาลไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมอาวุธของสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งให้ข้อมูลว่า อียูอาจต้องใช้เวลาอีก “หลายปี” กว่าจะเติมเต็มคลังแสงของตนเองกลับสู่ระดับเดิม ซึ่งเท่ากับว่าสหรัฐฯ ก็จะยิ่งได้ “กำไร” จากความขัดแย้งมากขึ้นไปอีก

รายงานฉบับนี้มีขึ้นหลังจากที่ มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกมาอ้างเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ความพยายามโดดเดี่ยวมอสโก “มีแต่จะสร้างความเดือดร้อนให้อียู และสุดท้ายพลเมืองยุโรปเองจะต้องควักกระเป๋าเสียค่าโง่ให้ความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ของพวกนักการเมือง”